รีวิวอาหารข้างทาง Nasi Kandar 4 แยก MRT Bukit Bintang

รีวิวอาหารข้างทาง Nasi Kandar 4 แยก MRT Bukit Bintang
ข้าวที่ได้จะถูกห่อมาอย่างมีระเบียบ ชั้นในเป็นใบตอง ชั้นนอกเป็นกระดาษ

เราใช้ชีวิตในมาเลเซียมาปีกว่าๆ แล้ว วันนี้นึกครื้นจากเขียนรีวิวอาหาร ไม่รู้จะรีวิวร้านไหนดี ก็เลยเลือกร้านประจำที่กินเกือบทุกเช้านี่แหละ ร้านนี้ขายอยู่ตรง 4 แยก MRT Bukit Bintang เดินออกฝั่ง Jalan Alor ก็จะเห็นเลย เราชอบเรียก 4 แยกตรงนี้ว่า 4 แยกไมเคิล แจ็กสันเพราะมีรูปปั้นเฮียแกยืนอยู่ 2 ตัวแหนะ ไม่รู้ใช่ไมเคิล แจ็กสันหรือเปล่านะ เดาเอาจากท่าทางชี้มือชี้ไม้ ฮ่าๆๆๆ (ลองเอารูปไปหาด้วย Google Lens ดูก็ไม่เจอแฮะ)

ร้านนี้เปิดประมาณ 7 โมงปลาย เพราะเราเคยออกมาซื้อตอน 7.30 น. ร้านกำลังเตรียมของอยู่ไม่ทันเสร็จ แต่พอเราออกมาอีกทีตอน 8 โมงเช้า คนก็ต่อแถวกันแน่นเอี๊ยดแล้ว สำหรับเวลาปิดไม่มั่นใจเลย แต่เราเคยไปซื้อช้าสุดก็ประมาณ 11.30 น. ก็ยังมีขายอยุ่นะ เมนูบางอย่างอาจหมดแล้ว คนก็บางตา แทบไม่มีคิวให้ต่อ แต่ก็ยังมีหลายเมนูให้เลือกนะ โดยเฉพาะเมนูที่เราชอบกินก็ยังอยู่ครบ

ที่ชอบสั่งบ่อยๆ (ทุกครั้ง) คือเราสั่งว่า "Bungus Satu Nasi Sotong and Telur" ที่แปลว่า "กลับบ้าน 1 ห่อ ข้าว ปลาหมึก และไข่ดาว" ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องมีมันหรอกไวยากรณ์ ใช้คำนามล้วนๆ Bungus = ห่อ / Satu = 1 / Nasi = ข้าว / Sotong = ปลาหมึก / Telur = ไข่ ซึ่งถ้าคนขายงง เราก็จะชี้ไปยังเมนูเลย แงงง

หลายครั้งคนขายก็อาจจะถามเรากลับเป็นภาษามาเลย์ นอกเหนือจากคลังคำศัพท์ที่เราจำมาด้วย เราจะใช้วิธีพยักหน้าเออออไป ฟีล "yeah yeah" โดยหวังว่าเขาคงไม่ตักอะไรแปลกๆ ให้เราหรอก จากที่สังเกตนะ เรื่องที่เขาถามเพิ่มบ่อยๆ คือ เอา Sambal ด้วยไหม มันคือสิ่งที่คล้ายน้ำพริก ทำจากพริก แต่ไม่เผ็ดเลย (สำหรับปากคนไทย/คนใต้แบบเรา) เวลาซื้อมาทีไรเราต้องเทพริกป่นเยอะๆ เพิ่มตลอด

นอกจากที่เล่าไปแล้ว ที่เขาจะถามเพิ่มว่าเอาด้วยไหมคือ Timun = แตงกว่า / Pusu = ปลากรอบ (ภาคใต้เรียกปลาจิ้งจั้ง) หรือ anchovies นั่นแหละ/ และท้ายสุด Kacang = ถั่วลิสง

nasi lemak ingredients 🍚🥚🍗
ส่วนประกอบต่างๆ ของ Nasi Lemak ที่มา: https://dribbble.com/shots/11660121-nasi-lemak-ingredients

จริงๆ แล้ว Nasi Lemak ส่วนประกอบก็ตามรูปด้านบน แต่พอเป็น Nasi Kandar มันก็มีหลายกับให้เลือก แต่ส่วนประกอบหลักๆ ก็ยังเหมือน Nasi Lemak นะ อาจเปลี่ยนจากไก่เป็นเนื้อ หรือเป็นปลาหมึกแทนตามความชอบของแต่ละคน แต่ไม่เคยเห็นหมูนะ (ปล.แต่มีนะ เพิ่งรู้เหมือนกัน ไปค้นมาเมื่อกี้)

เกริ่นซะยาวเลย ต่อมาจะโชว์ให้ดูว่าคนเยอะจริงๆ นะ วันนี้เราไปตอน 8.30 น. แดดตอนเช้าๆ ไม่แรงมาก ได้รับวิตามิน D กำลังดีช่วยยืดอายุ เราเพิ่งอ่านเจอมาในทวิตเตอร์ว่าคนที่ไม่ได้รับแสงแดดมักตายเร็วกว่าคนทั่วไป หาทวีตนั้นไม่เจอแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีกว่าแสงแดดมีประโยชน์ มันช่วยสังเคราะห์คอเลสเตอรอลไปเป็นวิตามินดี เรายังไม่อยากตายเลยขอตากแดดซักหน่อย ฮ่าๆๆ

คนต่อแถวยืนรอสั่งเยอะมาก และแถวก็ยาวมาก

ครั้งนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเมนูออกมา เพราะคนเยอะมาก แอบเกรงใจทั้งคนขายและคนต่อคิวข้างหลัง เดี๋ยวครั้งหน้าถ้าคนไม่เยอะจะถ่ายมานะครับ พอสั่งเสร็จแล้วก็ไปยืนรอเขาห่อ ระหว่างนั้นเขาจะแจ้งราคามา เราก็สแกนจ่ายได้เลย ทั้ง Duitnow (ไทย: พร้อมเพย์) และ Touch 'n Go (ไทย: Truemoney) หรือเงินสดก็ได้นะ

เสร็จแล้วก็จะออกมาห่อใหญ่ๆ แบบในรูปภาพปกเลยครับ ราคามีตั้งแต่ 3-15 ริงเลย ขึ้นอยู่กับความตระกละในการเลือกกับข้าวของแต่ละคน ส่วนของเราอยู่ที่ 9 ริงกิต ตอนนี้ค่าเงินมาเลย์อยู่ที่ประมาณ 7.5 บาท/ริงกิต ก็ตกประมาณ 67.5 บาท ไม่แพงนะ ถ้าเทียบกับค่าแรงที่นี่ แต่ถ้าเป็นไทยก็แอบแพงไหมนะ สำหรับข้าวแกงข้างทาง ไม่รู้เหมือนกัน

Nasi Lemak Biasaที่มา: https://archive.sinarharian.com.my

ส่วนใครที่สงสัยว่า 3 ริงกิตนี่เมนูอะไร มันคือ Nasi Lemak Biasa โดย Biasa แปลว่า ordinary/ normal/ usual/ regular ก็คือธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษนั่นเอง ก็จะตามภาพเลยครับ ไข่ก็จะได้มาครึ่งซีก หลายครั้งเจอ 1/4 ฟองด้วยซ้ำ ฮ่าๆ แต่ก็นะตามราคาเลย (รูปข้างบนไม่ใช่เมนูที่เราสั่งนะ)

หน้าตาข้างในห่อ Bungus Satu Nasi Sotong and Telur ที่เราสั่งมา

แต๊นแต้นนนน! พอแกะออกมาก็จะมีรูปลักษณ์แบบนี้ กล้องเราสีออกแนวมืดๆ หน้าตาจริงๆ มันดูสดใสกว่านี้นะ แต่ในส่วนของพริกป่นที่โรยเต็มนั้น เราโรยของเราเอง ซื้อพริกป่นเองด้วย ที่ร้านไม่มีให้ ตามประสาคนไทยกินอะไรชอบรสจัดๆ หวาน เผ็ด มัน เปรี้ยว อย่างที่บอกไปว่าน้ำพริก Sambal แทบไม่มีความเผ็ดเลย ออกหวานๆ มันๆ ครับ

มาถึงช่วงให้คะแนน ระดับความอร่อยให้ 6/10 แต่ถ้าเทียบกับราคาอาหารในย่านนี้แล้ว เอา 8.5/10 ไปเลย อิ่มจุกๆ อยู่ได้เกินครึ่งวันแบบนี้ ในราคาไม่ถึง 10 ริง หายากมากในย่านกลางเมืองอย่าง Bukit Bintang เราขอโทษนะแก ที่อาศัยอยู่ในย่านที่ไม่เหมาะกับสถานภาพทางการเงินของตัวเอง ฮ่าๆๆ ของกินแถวนี้แพงมากจริงๆนะ ต้องมี 20-40 ริงกิตโน้นแหนะ ถึงจะได้ของอร่อยถูกปาก ยิ่งถ้าสั่งผ่าน Grab/Foodpanda นะ 50 ริงเตรียมไว้ได้เลย

แต่ถ้าใครไม่ขี้เกียจ ของกินใน KL ราคาถูกๆ ก็เยอะนะ นั่งรถไฟฟ้าไปลงอีกสถานี หรือเดินก็ได้ในระยะไม่ถึง 1 กิโลเมตร ก็จะเจอของถูกๆ อร่อยเต็มไปหมด เช่น แถว Pudu ของถูกเยอะมาก เป็นย่านคนจีนเก่าและแรงงานต่างชาติอยู่กันเยอะ สภาพจะโทรมๆหน่อย แต่ของอร่อยเยอะเลยล่ะ

ขอปิดท้ายด้วยรูปข้าวหมกไก่ ไม่เกี่ยวอะไรกับโพสต์นี้ แต่เพิ่งไปกินมาที่ร้าน Soraya - Kampung Bahru ร้านคนไทย พี่คนขาย/พนักงานพูดภาษาไทยได้หมด มีของกินจากไทยเกือบทุกอย่าง ข้าวหมกไก่ ไก่ทอด หอยแคลงลวกน้ำจิ้มซีฟู้ด ขนมจีน ข้าวเหนียวมะม่วง มียันปาท่องโก๋การบินไทยอ่ะ (มีจริงๆ นะ) และอื่นๆ อีกมากมาย แถมราคายังถูกมากๆ อย่างข้าวหมกไก่ในรูปก็แค่ 8 ริงกิต ให้เยอะมากอิ่มสุดๆ ไว้เราจะเขียนรีริวเต็มๆ เฉพาะร้าน Soraya โดยเฉพาะเลย แต่อาจจะช้าหน่อย เพราะขี้เกียจเดินทาง ต้องขึ้น MRT เปลี่ยนสายไป LRT วุ่นวายมาก (จริงๆ ก็ไม่มากเท่าไหร่ แค่ขี้เกียจ) ฮ่าๆๆ